ระหว่าง Guerlain กับธรรมชาติ คือประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับแรงบันดาลใจอันยาวนานต่อเนื่องเกือบสองศตวรรษ ในฐานะแหล่งกำเนิดทรัพยากรล้ำค่าสุดอัศจรรย์ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของการดำเนินงาน ธรรมชาติมอบพลังขับเคลื่อนกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ให้แก่ Maison Guerlain มานับแต่ก่อตั้ง อีกทั้งยังจุดประกายปรารถนาในการยกระดับผลงานผลิตภัณฑ์เพื่อความงามให้กลายเป็นศิลปะ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องถนอมรักษ์มรดกอันประเมินค่ามิได้นี้ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป Guerlain จึงดำเนินภารกิจมุ่งมั่นที่จะส่งผ่านทุกมวลความมหัศจรรย์จากธรรมชาติสู่คนรุ่นต่อไปในอนาคตโดยมีผึ้งเป็นสัญลักษณ์สื่อความ นับตั้งแต่ปี 2007 Guerlain ได้ออกแบบแนวทาง วางมาตรการ และรูปแบบบุกเบิกการดำเนินพันธกิจเพื่อธรรมชาติภายใต้ชื่อโครงการ In the Name of Beauty หรือ “ในนามแห่งความงาม” โดยมีประเด็นด้านการปกป้อง และอนุรักษ์เป็นหัวใจสำคัญ

มีผึ้งเป็นศูนย์กลาง

ผึ้งดำรงตำแหน่งสัญลักษณ์แห่ง Maison Guerlain มานับตั้งแต่ปีค.ศ. 1853 ในฐานะแมลงผสมเกสรสายพันธุ์พิเศษ ผึ้งนำมาซึ่งมวลดอกไม้อันงดงามอย่างที่สุดให้แก่โลกใบนี้ จึงเท่ากับได้มอบตัวเลือกวัตถุดิบล้ำค่าอย่างหลากหลายให้แก่เหล่านักสร้างสรรค์ผู้ปรุงน้ำหอม เช่นเดียวกับผลผลิตต่างๆ จากรวงรังอันเป็นที่รักยิ่งในสูตรผลิตภัณฑ์ถนอมผิวของ Guerlain

ในฐานะผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อม และระบบพหุชีวิตของธรรมชาติ แมลงผึ้งมีบทบาทสำคัญยิ่งในวงจรห่วงโซ่อาหารบนโลกใบนี้ของเรา

ปัจจุบัน แมลงผสมเกสรสายพันธุ์นี้กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ จำเป็นต้องการได้รับการปกป้อง Guerlain เริ่มดำเนินมาตรการปกปักษ์สายพันธุ์ผึ้งมาตั้งแต่ค.ศ. 2011 ผ่านโครงการ Guerlain for Bees Conservation Programme ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับสิบห้าหน่วยงานพันธมิตรสิบห้าจนกลายเป็นเครือข่ายขับเคลื่อน ที่มีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง

IN THE NAME OF BEAUTY

Maison Guerlain ดำเนินการสร้างสรรค์น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ความงามอันล้วนมีความพิเศษเหนือชั้นมาตั้งแต่ปี 1828 ด้วยปณิธานกว้างไกลเหนือกว่าการเป็นแค่องค์กรธุรกิจ บริษัทได้เริ่มต้นวางมาตรการเพื่องานอนุรักษ์, พัฒนา และส่งผ่านมรดกทรงเอกลักษณ์นี้ให้ดำรงอยู่สืบเนื่องต่อไป ภายใต้ชื่อ In the Name of Beauty หรือ “ในนามแห่งความงาม” Guerlain มุ่งมั่นยกระดับธรรมชาติขึ้นไปสู่การเป็นศิลปะ และส่งผ่านความมหัศจรรย์ล้ำค่าแห่งธรรมชาตินี้ไปสู่คนรุ่นต่อไปในอนาคตโดยมีผึ้งเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงพันธกิจโครงการ Guerlain ร่วมกับเหล่าลูกค้า และคู่ค้าธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันในการดำเนินงานเพื่อแสดงความรับผิดชอบอันมีต่อโลก และทำให้โลกใบนี้งดงามยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การดำเนินงานตามโครงการพันธกิจเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม (CSR) ทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยความหมายอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังสะท้อนถึงความพยายามอันยิ่งใหญ่โดยอาศัยสี่บรรทัดฐานสำคัญเป็นแนวทางให้ยึดถือ ลงมือปฏิบัติการอย่างเคร่ง พร้อมกับมีการลงนามรับรองอย่างเป็นทางการจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังมีปรากฏในหัวข้อรายงานประจำปีตามระเบียบวาระ

บรรทัดฐานอันดับแรก: ระบบพหุชีวิต

การตอบแทนต่อธรรมชาติ ซึ่งได้มอบสิ่งต่างๆ ให้แก่เราผ่านหลากหนทางเพื่อความยั่งยืน พร้อมกับดำเนินภารกิจมุ่งมั่นอย่างเคร่งครัดเพื่อแมลงผึ้ง

ห่วงโซ่ส่วนผสมจากธรรมชาติของเรา

ในปี 2021 Guerlain คือหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสินค้าระดับหรู ซึ่งร่วมเป็นสมาชิกสหภาพการค้าวัตถุดิบชีวธรรมชาติจริยธรรมหรือ Union for Ethical BioTrade (UEBT) และริเริ่มกระบวนการตรวจสอบห่วงโซ่ทางการผลิตส่วนผสมธรรมชาติอันถือเป็นสัญลักษณ์ หรือสื่อถึง “ความเป็นเกอร์แลง” ทั้งห้าสิบห่วงโซ่ อาทิเช่นน้ำผึ้ง, กล้วยไม้ ตลอดจนบรรดาวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงหัวน้ำหอม Guerlinade เพื่อให้ได้ประกาศนียบัตรรับรองจากองค์กรสหภาพแห่งนี้ จำเป็นต้องอาศัยการลงมือปฏิบัติพร้อมกันในหลายๆ แนวทางโดยคำนึงถึงประโยชน์สุขต่อระบบพหุชีวิตในธรรมชาติ พร้อมกันนั้น เพื่อให้การปกป้องสิทธิของชุมชน และคนงาน ได้มีการนำแผนปรับปรุงต่างๆ ใช้กับแต่ละคู่ค้า และพันธมิตรธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าหมายที่จะได้ประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานจาก UEBT ภายในปี 2026

“วันผึ้งสากล” 20 พฤษภาคม 

ตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 Guerlain ได้นำ “วันผึ้งสากล” หรือ World Bee Day ตามที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดไว้ มาเป็นหนึ่งในการดำเนินพันธกิจเชิงสัญลักษณ์ขององค์กร แต่ละปี Maison Guerlain ได้ทำการระดมเงินทุนสนับสนุน และเร่งรัดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการ Guerlain for Bees Conservation Programme ให้เกิดขึ้น และส่งผลอย่างรวดเร็วไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านยูโร นอกจากนั้น นี่ยังเป็นวันพิเศษ ซึ่งแอนเจลินา โจลี หนึ่งใน “เพื่อน” ของ “ครอบครัว” ได้เข้ามามีส่วนร่วมนับแต่แรกเริ่ม

บรรทัดฐานอันดับสอง: นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

ด้วยการพัฒนา และสร้างสรรค์สูตรผสม ซึ่งมี “ความเป็นธรรมชาติ” มากยิ่งขึ้นควบคู่ไปกับบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นโดยไม่บั่นทอนคุณภาพ, ประสิทธิภาพ หรือสัมผัสแห่งความหรูหรา

นวัตกรรมเชิงนิเวศวิทยาของเรา

นวัตกรรมเชิงนิเวศวิทยาคือกฎเหล็กสูงสุดในการลงมือปฏิบัติ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทุกภาคส่วนของ Guerlain โดยมี “การลด” เป็นส่วนสำคัญ (ลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ และลดน้ำหนักกล่องบรรจุ) นอกจากนั้น Maison Guerlain ยังยึดมั่นต่อมาตรการการใช้รีฟิลล์ และรีไซเคิล ท้ายที่สุดก็คือลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกใหม่อันได้จากซากบรรพชีวินลงไปได้ในจำนวนมหาศาล พร้อมกับเร่งรัดนำวัสดุตั้งต้นซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากกระบวนการรีไซเคิล หรือจากแหล่งชีวภาพมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นบทเติมเต็มมาตรการปฏิบัติ ตลอดเวลาของทุกลำดับขั้นในกระบวนการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนงานออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงวันหมดอายุวงจรชีวิต จะมีการตรวจสอบ ประเมินผลข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของผลงานสร้างสรรค์ทั้งหลายโดยใช้ระบบการให้คะแนนโดยละเอียด และเคร่งครัด อันอำนวยให้เกิดการพัฒนา และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

สูตรผลิตภัณฑ์อันได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

การผสมสูตรเชิงนิเวศถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของ Maison Guerlain อย่างในปี 2020 แป้ง Terracotta อันทรงแบบฉบับได้รับการรังสรรค์ใหม่ด้วยการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติแท้ในสัดส่วนสูงถึง 96% อันถือเป็นอัตราส่วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ปี 2022 น้ำหอมต่างๆ ของคอลเลกชัน Aqua Allegoria ก็ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติในปริมาณสูงกว่า 90% และในปี 2022 เดียวกันนั้นที่ครีมถนอมผิวรุ่นห้าของ Orchidée Impériale ก็เพิ่มปริมาณส่วนผสมจากธรรมชาติให้มีสัดส่วนสูงขึ้นถึง 96% เช่นเดียวกัน

บรรทัดฐานอันดับสาม: สภาพภูมิอากาศ

เพื่อให้การลงมือปฏิบัติเพื่อสภาพภูมิอากาศ และนำแนวทางดำเนินงานปรับค่าคาร์บอนให้เป็นกลางมาใช้กับทุกเครือข่ายงานหลายภาคส่วนทั่วโลกมอบผลลัพธ์อย่างสมบูรณ์ภายในค.ศ. 2030 ในปี 2021 องค์กร Science-Based Targets initiative (SBTi) ได้เข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบ ประเมินผลการดำเนินงานของ Guerlain ในการลดปริมาณการแพร่ก๊าซเรือนกระจก พร้อมกันนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป วัตถุประสงค์ในการวางนโยบายต่างๆ ของบริษัท จะมีทิศทางสอดคล้องไปกับบทบัญญัติทั้งหลายตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยจำกัดภาวะโลกร้อน ไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม

ตัวอย่างพื้นที่ดำเนินกระบวนการผลิต

นับตั้งแต่ปี 2021 เขตการผลิตที่ลารุชได้ลดปริมาณการแพร่ก๊าซเรือนกระจกลงไปได้ถึง 95% จากการใช้สารไบโอมีเธน ซึ่งถือเป็น “ก๊าซสะอาด” (green gas) ถึง 100% เต็ม จากนั้น นับแต่ปี 2022 80% ของพื้นที่ดำเนินกระบวนการผลิตทั้งหลายของ Guerlain รวมถึงสาขาย่อยต่างๆ ล้วนได้รับใบรับรองยืนยันมาตรฐานสากล ISO 14001 นอกจากนั้น Guerlain ยังดำเนินกระบวนการประเมินผลรายปีเพื่อระบุค่าการแพร่ก๊าซเรือนกระจก (ใช้กรรมวิธีตามมาตรปฏิบัติ Bilan Carbone และ GHG)

บรรทัดฐานการดำเนินงานอันดับสี่ว่าด้วยเรื่องผลกระทบต่อสังคม

สร้างพลังบวกแก่สังคมควบคู่ไปกับดำเนินกิจกรรมเพื่อดูแลรักษาคุณค่ามหัศจรรย์แห่งธรรมชาติให้ธำรงอยู่สืบไป

โปรแกรม “WOMEN FOR BEES”  

โปรแกรมฝึกอบรมวิชาชีพสตรีผู้ประกอบการเลี้ยงผึ้งของ Guerlain เป็นโครงการอันเกี่ยวโยงถึงนโยบายขององค์กรยูเนสโก และองค์กรนอกภาครัฐส่วนท้องถิ่นทั้งหลายโดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มอำนาจความเสมอภาค และความสามารถของผู้หญิงผ่านการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนควบคู่ไปกับการปกป้อง อนุรักษ์สายพันธุ์ผึ้งเฉพาะถิ่นไปพร้อมกัน

ปัจจุบัน โปรแกรมนี้ได้ถูกดำเนินงานจริงขึ้นแล้วในฝรั่งเศส, กัมพูชา, ญี่ปุ่น, สเปน, อิตาลี และเม็กซิโก และจะขยายผลไปทั่วโลกในปีต่อๆ ไป

โรงเรียนผึ้ง BEE SCHOOLS

หรือ “โรงเรียนผึ้ง” เป็นภารกิจยกระดับความตระหนักรู้ถึงการปกป้อง อนุรักษ์แมลงผึ้งให้แก่คนรุ่นใหม่ นับจากปีค.ศ. 2018 ในฝรั่งเศส และปี 2021 ในระดับสากล ได้มีการดำเนินโครงการนี้ในส่วนของโรงเรียนประถมศึกษาทั่วโลกผ่านการดำเนินงานโดยเจ้าหน้าที่ของ Guerlain มีทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้, ซักถาม และให้คำตอบ ตลอดจนการจัดเวิร์คช็อปเผยแพร่ความรู้ให้แก่เด็กจำนวนหลายแสนคนในปีต่อๆ ไป

GUERLAIN กับความรับผิดชอบทางวัฒนธรรม

ลงมือปฏิบัติ, สร้างแรงบันดาลใจ, ให้ความรู้ และดำเนินการสื่อสารอย่างรับผิดชอบ

สื่อสารอย่างแตกต่าง

Guerlain กำลังดำเนินงานทั้งส่วนของการออกแบบเนื้อหาเพื่อการสื่อสาร และแนวทางการผลิตเนื้อหาเพื่อการสื่อสารเหล่านั้น โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มความตระหนักรู้ และกระตุ้นให้เกิดการลงมือปฏิบัติภายในทุกภาคส่วนที่ Maison Guerlain ให้การสนับสนุน และยังรวมถึงกระบวนการพัฒนามาตรฐานใหม่ในการผลิตภาพเพื่อการสื่อสาร ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวดังปรากฏให้เห็นผ่านแคมเปญ หรืองานโฆษณาประชาสัมพันธ์ Aqua Allegoria ตลอดปี 2022 แนวทางการนำเสนอระดับนวัตกรรมนี้ ยังประกอบไปด้วยมาตรการลดผลกระทบในภาพรวมจากพื้นฐานแนวคิด หรือแนวทางการสร้างสรรค์ไปจนถึงการเผยแพร่ภาพเพื่อการสื่อสารเหล่านี้

ศิลปะในฐานะผู้นำสารแห่งความยั่งยืน

ผลงานสร้างสรรค์กลุ่ม Exceptional Pieces หรือ “ผลงานอันมีความพิเศษเหนือสามัญ” ล้วนทรงคุณค่าเทียบเท่าศิลปวัตถุ และเต็มเปี่ยมไปด้วยแง่มุมทางการสะท้อนถึงพันธกิจมุ่งมั่นของ Maison Guerlaiin ด้วยการคัดเลือกบรรดาศิลปินผู้ละเอียดอ่อน และเข้าในต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมโลกให้มาร่วมกันหลอมรวมศิลปะเข้ากับกระบวนการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บรรดาศิลปินแถวหน้าอย่างวิลเลียม อามอร์, เควิน เชอร์มานิเอร์, โทมาส ลิเบอร์ตินี...ทั้งหมดนี้ก้าวไปพร้อมกับ Maison Guerlain บนเส้นทาง “ความงามอันนำมาซึ่งประโยชน์สุข”

พันธมิตรร่วมอุดมการณ์

ท้ายที่สุด Maison Guerlain ก็ได้เริ่มต้นภารกิจภาคีศิลปะ และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าสู่แวดวง “ศิลปะกับระบบนิเวศ” ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Palais de Tokyo (ปาเลส์ เดอ โตเกียว) แห่งมหานครปารีส ซึ่งเท่ากับเป็นการผนึกกำลังร่วมกับศูนย์กลางแห่งความร่วมสมัยอันยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปในขอบข่ายศิลปะ และการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

“คณะกรรมการการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน” ของ GUERLAIN

ระหว่างปี 2021 Guerlain เป็นองค์กรธุรกิจแห่งแรกในอุตสาหกรรมสินค้าระดับหรู ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการอันประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งไม่ขึ้นกับหน่วยงานภาคส่วนใดถึงสิบสามคน คณะกรรมการกลุ่มนี้ได้ช่วย Guerlain ในการดำเนินนโยบายผ่านกิจกรรมทั้งหลายให้บรรลุผลตามความมุ่งมั่น ในฐานะผู้นำแถวหน้าทางการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต่างสาขาเหล่านี้ได้ร่วมกับ Maison Guerlain เวลาเผชิญหน้าโจทย์ท้าทายใหม่ๆ ด้วยการช่วยระบุ และคิดค้นหนทาง หรือวิธีการรูปแบบใหม่ในการรับมือ